วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ฟัฎลุลลอฮ์

ความเชื่อที่ผิดเพี้ยนของฟัฎลุลลอฮ์ ในเรื่อง “มุศิบัตต่าง ๆของท่านหญิงซะฮ์รอ (ซ.)ท่านอัลลามะห์ ซัยยิดมุรตะฎอ อามิลี หนึ่งจากผู้เชี่ยวชาญในด้านประวัติศาสตร์อิสลาม ท่านได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง เพื่อตอบปัญหาและสาเหตุแห่งความคลุมเครือต่างๆ ของฟัฎลุลลอฮ์ที่มีต่อท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ในหนังสือเล่มหนงที่มีชื่อว่าึ่ “มุศิบัตต่างๆ ของท่านหญิง ฟาติมะฮ์ (ซ.)” โดยที่ท่านอัลลามะห์ อามิลี นั้นเป็นเพื่อนรวมห้อง่กับฟัฎลุลลอฮ์ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือฉบับดังกล่าว มีดังนี้สาเหตุจากการที่ ฟัฎลุลลอฮ์ ไม่เชื่อว่าท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ถูกทุบตี และบ้านของท่านก็ถูกเผา รวมทั้งเขามียังความเชื่ออีกว่า “ชะฮีดมุอ์ซิน” ซึ่งเป็นบุตรชายในครรภ์ของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ที่ได้แท้งไปเนื่องจากถูกทำร้ายโดยคอลีฟะฮ์ที่ 2 (อุมัร) นั้นไม่มีตัวตน เป็นเพราะในทัศนะของฟัฎลุลลอฮ์แล้วเรื่องนี้เป็นเพียงประวัติศาสตร์เท่านั้น มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ประการใดกับหลักศรัทธา (อะกีดะฮ์) ในสายธารอิมามิยะฮ์ แม้แต่น้อยหากจะกล่าวโดยสรุป ก็คือ ฟัฎลุลลอฮ์ ไม่ยอมรับในความชื่อที่ว่า คอลีฟะฮ์อุมัร เป็นต้นเหตุในการบุกรุกเข้าไปเผาบ้านของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.)และทำร้ายท่านจนกระทั่งทำให้ท่านหญิงฟาติมะฮ์(ซ.) ต้องแท้งบุตรในครรภ์ และต่อมาท่านก็ได้เป็นชะฮีดในที่สุดดังนั้น ฟัฎลุลลอฮ์ จึงได้ตั้งข้อสังเกตเพื่อคัดค้านต่อความเชื่อ (หรืออะดีดะฮ์) ในเรื่องที่ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) การถูกทำร้ายดังนี้คือ1. หากท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ถูกทำร้ายจริงทำไมท่านอิมามอะลี (อ.) จึงไม่ปกป้องท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.)?2. พวกฆาตกรไม่ได้เข้าไปในบ้านท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) แล้วพวกมันจะทุบตีท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ได้อย่างไร?3. ในเมื่อพวกมันไม่ได้ทุบตีท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.)ฉะนั้น ตามที่กล่าวว่า “สีข้างของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) หัก” นั้น เป็นความจริงหรือ?4. “ท่านมุฮ์ซิน” มีตัวตนจริงหรือไม่?ข้อ 1) ทำไมอิมามอะลี (อ.) จึงไม่ปกป้องท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (ซ.)?ตอบ : เพราะท่านนบี (ศ็อลฯ) ได้เคยสั่งเสียกบท่านอิมามอะลีั (อ.) ว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า จงอดทน” จากตรงนี้เองทำให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมท่านอิมามอะลี (อ.) จึงไม่ปกป้องท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (ซ.)ข้อ 2) พวกฆาตกรไม่ได้เข้าไปในบ้านท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) แล้วพวกมันจะทุบตีท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ได้อย่างไร?ตอบ : ทั้ง ๆ ที่ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) อยู่ในบ้านแล้วท่านได้ถูกทุบตีและถีบจากฆาตกรคนหนึ่งนั้นเรามีหลักฐานมากมายที่เกี่ยวกับการบุกรุกเข้าไปในบ้านของท่าน โดยพวกฆาตรกรมันได้เข้าไปเผาประตูบ้านของท่าน และได้ทำร้ายท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) โดยการทุบตีและถีบท่านดังนี้• หลักฐานต่างๆ ในการเผาประตูบ้านของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (ซ.)- ซะลีม บิน เกส หน้า 585, 863-868- บิฮารุลอันวาร เล่ม 22 หน้า 484-485, เล่ม 28หน้า 269-299, 306-309, 390, 411,เล่ม 30 หน้า348-350, เล่ม 31 หน้า 126, เล่ม 43 หน้า 197,เล่ม 95 หน้า 351-354, เล่ม 53 หน้า 14-23- อัลฆะดีร เล่ม 6 หน้า 391- มิสบาฮุลอันวาร- นะฮฺญุลฮัก หน้า 271, 272• “อุมัร ได้ถีบไปยังท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.)” และด้วยสาเหตุของการถีบครั้งนี้ จึงเป็นเหตุทำให้ ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ได้แท้งบุตรในครรภ์ คือชะฮีด มุฮฺซิน (มีซานุล อิติดาล เล่ม1 หน้า139,ลิซานุลมีซาน เล่ม1 หน้า268,) และจากหลักฐานอันนี้ทำให้เราเข้าใจว่า การที่พวกฆาตกรได้บุกรุกเข้าไปในบ้านของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) นั้นเป็นความจริง• หลักฐานอื่น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับการทุบตีท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.)- อะมาลีศะดูก หน้า 99-101,118- บิฮารุลอันวาร เล่ม 28 หน้า 37-39, 51, 62-64,261, 268-270,- พอวัรกี 271 หรือ 281, 297-299, เล่ม 43 หน้า172, 173, 197-200, เล่ม 95 หน้า 351-354, เล่ม30 หน้า 293-295, 302, 303, 348-350, เล่ม44หน้า 149- ตัฟซีร อัยยาชี เล่ม 2 หน้า 307, 308- ซะลีม บินเกส เล่ม2 หน้า 585-586, 587, 674,675, 907ข้อ 3) ในเมื่อพวกมันไม่ได้ทุบตีท่านหญิงฟาติมะฮ์(ซ.) ฉะนั้น ตามที่กล่าวว่า สีข้างของท่านหญงฟาติมะฮ์ิ (ซ.) หักนั้น เป็นความจริงหรือ?ตอบ : ตามที่ได้กล่าวไปแล้วในข้อ 2 ข้างต้นว่าใครคือผู้ถีบท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (ซ.) มีข้อชี้แจงดังนี้• ในเรื่องนี้นบี (ศ็อลฯ) ก็เคยบอกกับท่านอิมามอะลี(อ.) และท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (ซ.) แล้ว ซึ่งในวันหนึ่งขณะที่ท่านอิมามอะลี (อ.)ท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (ซ.) ท่านอิมามฮาซัน (อ.) และท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) ได้ไปหาท่านนบี (ศ็อลฯ) และท่านได้เห็นท่านนบี (ศ็อลฯ) ร้องไห้ ดังนั้นท่านอิมาม อะลี (อ.) จึงได้ถามท่านนบี (ศ็อลฯ) ว่า “ท่านร้องไห้ทำไม?” ท่านนบี (ศ็อลฯ) ได้ตอบว่า “ฉันร้องไห้ ด้วยสาเหตุจากการถูกฟันขอเจ้า และการถูกตบของฟาตีมะฮ์ (ซ.)” (อะมาลี ศะดูกหน้า118,บิ ฮารุลอันวาร เล่ม28 หน้า51)• ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ได้ร้องตะโกนว่า “โอ้พ่อจ๋า รู้ไหมว่า อบูบักรและอุมัรได้ทำอะไรกับเรา?” หลังจากนั้น อุมัรก็ได้ชักดาบออกมาแล้วทุบไปยังสีข้างของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) กันฟัส (คนรับใช้ของอบูบักร) ก็ได้ใช้แซ่ฟาดไปยังไหล่ของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซ.) ท่านหญิงจึงได้รองตะโกนอีกครั้้งว่า “โอ้พ่อจ๋า มันเกิดขึ้นแล้ว” (กอเม็สบะฮออี เล่ม1 หน้า306)• หลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสีข้างของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (ซ.) หัก- อะมาลีศะดูก หน้า 99-101- บิฮารุลอันวาร เล่ม 28 หน้า 37-39, 261,268-270, เล่ม 43 หน้า 172-173, เล่ม82 หน้า261, เล่ม 97 หน้า 199-200, เล่ม98 หน้า 44- ซะลีม บิน เกส หน้า 586-594, 907- อะวอลิมุลอุลูม เล่ม 11 หน้า 391-392,400-404- ญะลาอุลอุยูน เล่ม 1 หน้า 186-188• นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ได้กล่าวว่าดวงตาของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (ซ.) ที่ได้รับบาดเจ็บ- ซีรอตุลอะอิมมะตุลอิซนะอะชัร เล่ม 1 หน้า132- อัลอันวารุลกัดซีเยะฮ์ หน้า 42-44ข้อ 4) ท่านมุฮ์ซินมีตัวตนจริงหรือ?ตอบ : ท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (ซ.) ได้กล่าวว่า “พวกมันได้รวบรวมไม้ฟืน และวางหน้าประตูบ้านของฉันและได้เอาไฟมา เพื่อต้องการจะเผาประตู และเราฉันยืนอยู่ด้านหลังประตู พวกมันได้สาบานต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) และพ่อของฉันว่า จะลากเราออกไปข้างนอก หลังจากนั้นอุมัรได้เอาแซ่จากมือของ “กันฟัส” ซึ่งเป็นคนรับใช้ของอบูบักรมา และได้ทุบมายังบ่าหรือไหล่ของฉันจนมีรอยฟกช้ำ หลังจากนั้นอุมัรก็ได้ถีบประตูแล้วประตูก็ได้กระทบมายังฉัน ซึ่งในขณะนั้นฉันกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม้ฟืนได้ตกยังใบหน้าของฉันทำให้ให้หน้าของฉันมีรอยไหม้ แล้วอุมัรยังได้ตบยังใบหน้าของฉัน จนต่างหูของฉันตก และฉันได้ปวดครรภ์ของฉัน จากนั้นฉันก็ได้แท้งมุฮ์ซินในขณะที่มุฮ์ซินไม่มีความผิดอะไรเลย” (บิฮารุลอันวาร เชซังกี เล่ม 8 หน้า 231)จากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ ที่มาของการเป็นชะฮาดัตของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (ซ.)• อัลบะละดุลอะมีน หน้า 198 หรือ 278• บิฮารุลอันวาร เล่ม 25 หน้า 373, เล่ม 28 หน้า62-64,73, 262, 268, 270, เล่ม 29 หน้า 129, เล่ม43 หน้า 170, 197-200, เล่ม 53 หน้า 23, เล่ม97หน้า 165-200, เล่ม99 หน้า 220“อินนาลิลลาฮิ วะอินนาอิลัย ฮิรอญิอูน”ข้อคิดจากบทความ : คำพูดของฟัฎลุลลอฮ์ที่ว่าเรื่องราวการถูกซอเล็มของท่านหญิงฟาติมะฮ์ซะฮ์รอ (ซ.) เป็นเพียงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ที่ไม่ต้องใส่ใจ มันหมายความว่า เขาผู้นี้ “ฟัลุลลอฮ์”มีอะกิดะฮ์เช่นไร? และหากว่า อะกีดะฮ์ของคนที่อ้างตนว่า เป็นมัรญิอ์ เป็นผู้ที่ทำคุณานุประโยชน์ให้แก่โลกอิสลามนั้น เป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็ อะกีดะฮ์ของผู้ที่เป็นมุก็อดลิดจะเป็นเช่นไรกัน??

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น